ในยุคที่การปลูกกัญชากลายเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น หลายคนเริ่มต้นเส้นทางเกษตรกรรมกัญชาด้วยการเพาะเลี้ยง ต้นกล้ากัญชา ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญและเปราะบางมากที่สุดในวงจรชีวิตของพืชชนิดนี้ ถึงแม้ว่าการปลูกจะดูเหมือนง่าย เพียงแค่มีเมล็ด ดิน และแสงแดด แต่ในความจริงแล้ว ต้นกล้าต้องการการดูแลแบบใกล้ชิดอย่างมาก
หลายคนมักเผชิญกับอุปสรรคหลากหลาย ตั้งแต่การงอกไม่สมบูรณ์ ต้นแคระแกร็น ไปจนถึงเชื้อราและโรคร้ายแรงที่ทำลายความหวังของเกษตรกรมือใหม่ในพริบตา บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึง ปัญหายอดฮิตในการปลูกต้นกล้ากัญชา พร้อมแนวทางการป้องกันอย่างมืออาชีพ เพื่อให้ต้นกล้าของคุณเติบโตแข็งแรง สวยงาม และพร้อมเข้าสู่ระยะการเจริญเติบโตอย่างมั่นคง
ปัญหาการเน่าโคนต้นจากความชื้นสะสม
หนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดกับ ต้นกล้ากัญชา คือการเกิด โรคเน่าโคนต้น (Damping-off) ซึ่งมักมีสาเหตุจากเชื้อราในดินที่เจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ชื้นเกินไป
อาการจะเริ่มจากลำต้นช่วงล่างกลายเป็นสีน้ำตาลอ่อน แล้วค่อย ๆ อ่อนแอลงและล้มในที่สุด โดยที่ต้นอาจดูเขียวดีอยู่ แต่ระบบโคนกำลังถูกทำลายอย่างช้า ๆ
วิธีป้องกันที่ได้ผลที่สุด คือการใช้ดินปลูกที่ผ่านการฆ่าเชื้อหรือเป็น ดินที่โปร่ง ระบายน้ำดี หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไป และใช้กระถางที่มีรูระบายน้ำ รวมถึงเลี่ยงการวางกระถางในพื้นที่ที่อากาศอับ
การควบคุมความชื้นในอากาศและใช้พัดลมช่วยระบายอากาศในโรงเรือน ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ช่วยลดโอกาสเกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปัญหาแสงไม่เพียงพอ ทำให้ต้นยืดผิดรูป
ต้นกล้ากัญชา ต้องการแสงอย่างน้อย 16 ชั่วโมงต่อวันในช่วงแรกของชีวิต หากต้นได้รับแสงไม่เพียงพอ จะเกิดอาการที่เรียกว่า ต้นยืด (Stretching) ซึ่งทำให้ลำต้นยาวผิดปกติ ผอมและอ่อนแอ
สิ่งนี้ส่งผลให้ต้นไม่สามารถรับน้ำหนักใบได้ดี เสี่ยงต่อการล้มและหยุดการเจริญเติบโตในที่สุด
แนวทางป้องกันคือการใช้ หลอดไฟปลูกพืชที่มีสเปกตรัมแสงเหมาะสม หรือวางต้นในจุดที่ได้รับแสงแดดธรรมชาติเพียงพอ หากคุณปลูกในร่ม การเลือกใช้ไฟ LED เติบโตคุณภาพดีและการตั้งความสูงของไฟให้เหมาะสมกับต้นกล้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
ปัญหาใบเหลืองจากการรดน้ำหรือให้ปุ๋ยผิดวิธี
การให้ปุ๋ยหรือรดน้ำมากเกินไป มักเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ ใบต้นกล้ากัญชา กลายเป็นสีเหลือง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าระบบรากเริ่มมีปัญหา
ผู้ปลูกหลายรายมักเข้าใจผิด คิดว่าใบเหลืองเกิดจากขาดสารอาหาร จึงยิ่งเติมปุ๋ยเข้าไปมากขึ้น ซึ่งกลายเป็นการเร่งให้ปัญหารากเน่าแย่ลงอีก
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ควรเริ่มต้นด้วยการใช้ดินปลูกที่มีสารอาหารพอเหมาะ และรดน้ำเมื่อหน้าดินแห้ง ไม่ควรรดน้ำตามเวลาแต่ควรสังเกตจากสภาพจริง
การให้ปุ๋ย ควรใช้สูตรสำหรับต้นกล้าโดยเฉพาะที่มีไนโตรเจนในปริมาณต่ำ และควรเริ่มให้ในปริมาณเจือจาง แล้วค่อย ๆ เพิ่มเมื่อสังเกตว่าต้นตอบสนองได้ดี
ปัญหาแมลงศัตรูพืชที่โจมตีต้นกล้า
แม้ว่าจะอยู่ในช่วงต้นอ่อน แต่ ต้นกล้ากัญชา ก็ยังคงเป็นเหยื่ออันโอชะของแมลงศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟ ไรแดง หรือแมลงหวี่ขาว
แมลงเหล่านี้จะดูดน้ำเลี้ยงจากใบ ทำให้ต้นเหี่ยว ใบมีจุดสีน้ำตาล และชะงักการเจริญเติบโต แมลงบางชนิดยังเป็นพาหะของโรคไวรัสอีกด้วย
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการตรวจสอบต้นกล้าอย่างสม่ำเสมอ และใช้วิธีธรรมชาติ เช่น น้ำสบู่อ่อนหรือสารสกัดจากสะเดาฉีดพ่นเป็นประจำ
หากมีการระบาดในวงกว้าง ควรแยกต้นที่มีปัญหาออกทันทีเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย และควรล้างทำความสะอาดพื้นที่ปลูกให้สะอาดอยู่เสมอ
การจัดการความร้อนและอุณหภูมิไม่เหมาะสม
ต้นกล้ากัญชา ต้องการอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญเติบโต โดยเฉพาะในช่วงกลางวันควรอยู่ที่ประมาณ 24–26°C และกลางคืนไม่ควรต่ำกว่า 18°C
การปลูกในสภาพอากาศที่ร้อนจัดเกินไปจะทำให้ต้นชะงัก และใบไหม้ ขณะที่อากาศเย็นเกินไปอาจส่งผลต่อกระบวนการงอกและระบบราก
การใช้เทอร์โมมิเตอร์ร่วมกับพัดลม หรือเครื่องทำความเย็นจะช่วยควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม และยังช่วยลดการเกิดโรคจากอุณหภูมิแปรปรวนอีกด้วย
การปลูก ต้นกล้ากัญชา อาจดูเหมือนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ แต่จริง ๆ แล้วเป็นช่วงเวลาที่ “ชี้ชะตา” ของพืชทั้งชีวิตก็ว่าได้ เพราะความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยในช่วงต้น อาจนำไปสู่ผลผลิตที่ด้อยคุณภาพ หรือพืชที่ไม่สามารถเติบโตจนถึงขั้นเก็บเกี่ยวได้เลย
สิ่งสำคัญคือการใส่ใจในรายละเอียดอย่างรอบด้าน ตั้งแต่ดิน น้ำ แสง อุณหภูมิ ไปจนถึงการจัดการศัตรูพืชอย่างเหมาะสม การเรียนรู้จากปัญหาที่พบบ่อย และรู้จัก วิธีป้องกันที่เหมาะสม จะทำให้คุณสามารถดูแลต้นกล้าของคุณให้เติบโตอย่างแข็งแรง และเข้าสู่ระยะถัดไปอย่างมั่นคง สร้างพื้นฐานที่ดีให้กับผลผลิตที่มีคุณภาพในอนาคต