สำหรับชาวคอนโด หรือคนที่มีพื้นที่ในการใช้สอยภายในบ้านที่จำกัด ที่อยากลองปลูกผักกินเองแบบไม่ต้องลงทุน หรือลงแรง ที่สามารถทำได้โดยใช้ขั้นตอนเพียงไม่กี่ขั้นตอน แนะนำให้ลอง ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ถึงแม้ว่าตลอดเวลา การปลูกผักในรูปแบบนี้จะมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องของสารเคมีที่ตกค้างอยู่ในผัก
ซึ่งเกิดจากการสะสมของไนเตรท โดยสารดังกล่าวนี้เป็นสาเหตุหนึ่งของการทำให้เกิดโรคมะเร็ง แต่ถึงอย่างไร ก็ยังไม่ได้มีการวิจัยที่ชี้แสดงผลออกมาชัดเจนว่า การกินผักไฮโดรโปนิกส์ จะส่งผลให้เกิดโรคมะเร็งอย่างที่ถกเถียงกัน เอาเป็นว่าใครที่สนใจที่จะ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ วันนี้เรานำข้อมูลที่น่าสนใจ มากบอกต่อ เพื่อจะมีประโยชน์ และสร้างแรงกระตุ้นในการอยากปลูกได้มากขึ้น
รู้จักการ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ผักยอดนิยมที่ชาวคอนโดก็ปลูกได้ !
ไฮโดรโปนิกส์ หรือ Hydroponic คือ รูปแบบการปลูกพืชในรูปแบบไร้ดิน ซึ่งก็คือการปล่อยให้มีการเติมโตโดยจากใช้น้ำเป็นส่วนผสมหลัก โดยที่จะมีการผสมสารละลายอาหารในการปลูกเลี้ยง หรือที่เรียกกันอีกชื่อคือ ปุ๋ยน้ำ การ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ โดนส่วนใหญ่แล้ว ผักที่ได้รับการนิยมก็มักจะเป็นผักที่มีระยะการปลูกที่สั้น หรือผักที่นิยมปลูกเอาไว้เพื่อกินใบ ในส่วนของผักไฮโดรโปนิกส์ ที่ถือว่าได้รับความนิยมมาตั้งนานแล้ว แต่อาจจะไม่ค่อยมีข้อมูลให้ได้ศึกษากัน โดยส่วนใหญ่มักจะนิยมปลูกผักประเภท ผักกาดหอม กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค กรีนคอส ฟิลเลย์ และบัตเตอร์เฮด โดยที่ผักดังกล่าวนั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นผักที่ใช้ระยะในการเติมโตที่เร็ว สามารถเก็บเกี่ยวได้เร็ว โดยจะใช้เวลาในการปลูกอยู่ที่ประมาณ 40-60 วันเท่านั้น โดยที่ส่วนใหญ่มักจะนิยมนำผักเหล่านั้นมากินสด เพื่อเป็นผักแกล้ม หรือนำไปทำสลัด ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ระบบการ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ที่นิยมในประเทศไทย
สำหรับระบบการ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย จะมีอยู่ด้วยกัน 5 ระบบ นั่นก็คือ
- DFT หรือ Deep Flow Technique
- DRFT หรือ Dynamic Root Floating Technique
- FAD หรือ Food and Drain
- NFT หรือ Nutrient Film Technique
- NFLT หรือ Nutrient Flow Technique
สำหรับการ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ที่นำเอามาให้ทุกคนได้ดูกันในวันนี้ก็หวังเอาไว้ว่าน่าจะมีประโยชน์ที่ไม่มากก็น้อย หรือเป็นแรงกระตุ้นให้คนที่มีเวลาว่าง หันมาใช้ช่วงเวลาไปกับการปลูกผัก เพื่อให้มีกิจกรรมทำในยามว่าง และรวมไปถึงผู้ที่กำลังมองหารายได้เสริม ที่ก็สามารถนำเอาวิธีนี้ ไปใช้เป็นรายได้เสริม ทางเลือกใหม่ ๆ ได้อีกด้วย ทั้งนี้การ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้เราสามารถใช้เวลาว่างไปกับการทำกิจกรรมที่มีประโยชน์เท่านั้น แต่ยังช่วยให้เรามั่นใจในความปลอดภัยจากการกินผักที่ปลูกด้วยตัวเอง ซึ่งเมื่อเทียบกับผักสวย ๆ ที่ซื้อตามท้องตลาด
